การเทรดหุ้น, ทอง, Forex ฯลฯ ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคดิจิทัล เพราะมีการเคลื่อนไหวทางการเงินรวดเร็วและมีโอกาสในการทำกำไรที่สูง ทำให้ใครหลายคนสนใจแล้วเลือกมาลองลงทุนกันเป็นจำนวนมาก ใครหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าการเทรด Forex นี้ไม่เพียงแต่ต้องใช้ความรู้หรือทักษะในการวิเคราะห์ตลาดทางการเงินเท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจถึงเรื่อง ภาษี forex ที่เกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งในบทความครั้งนี้เราจะมาเจาะลึกกันเกี่ยวกับกฎหมายภาษีไทยที่มีผลต่อนักเทรด Forex ไม่ว่าจะเป็นอัตราภาษี วิธีคำนวณ และการยื่นภาษี รวมทั้งข้อควรรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษี เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถทำการเทรดและทำกำไรได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งรักษาความโปร่งใสและการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีไทยอย่างถูกต้อง
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Forex แบบง่าย ๆ
Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งการเทรด Forex ก็คือการแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ โดยส่วนมากแล้วการเทรด Forex มักจะเป็นการจับคู่สกุลเงินที่ได้รับการยอมรับ (มีสกุลเงินที่ไม่รู้จักด้วยเช่นกัน) เป็นคู่ ๆ เช่น EUR/USD ที่เป็นค่าเงินยูโร (EUR) และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งหากค่าเงินยูโรเพิ่มมากขึ้น คุณก็จะทำกำไรได้จากการเทรดรอบนั้น ซึ่งหากคุณสนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Forex สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เทรด Forex คืออะไร ทำความรู้จักก่อนเริ่มเทรดสำหรับมือใหม่
เจาะลึกเรื่องภาษี Forex สำหรับเทรดเดอร์
ทีนี้มาสู่เนื้อหาหลักเกี่ยวกับภาษี Forex กันเลยดีกว่า ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่าการเทรด Forex ไม่เพียงต้องใช้ความรู้และทักษะในการวิเคราะห์การตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องภาษีด้วยเช่นกัน
1. กฎหมายการเสียภาษีของไทย
ระบบการเสียภาษีของไทยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ภาษีตรงและภาษีทางอ้อม โดยมีหลักการและวิธีการเก็บที่แตกต่างกัน แต่ในส่วนที่เราต้องโฟกัสเกี่ยวกับภาษี Forex อยู่ในส่วนของภาษีตรง ที่เป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะเป็นการคิดจากรายได้ของบุคคล โดยมีอัตราส่วนที่แตกต่างกันไปตามระดับเงินรายได้ที่ได้รับ เริ่มตั้งแต่ 0% ไปจนถึง 35%
ซึ่งการเทรด Forex ในไทยอาจจะต้องเผชิญกับการจัดเก็บภาษีหลายประเภท แต่กำไรที่ได้รับจากการเทรด Forex จะเข้าค่ายอยู่ในภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประเภทที่ 4 เงินได้พึงประเมิน โดยเงินได้ประเภทที่ 4 จะต้องทำการยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 90 ภายในเดือน มกราคม – มีนาคม ของปีถัดไป
- เงินได้ประเภทที่ 1 ได้แก่ เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน / เงินเดือน
- เงินได้ประเภทที่ 2 ได้แก่ เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ
- เงินได้ประเภทที่ 3 ได้แก่ ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์หรือสิทธิอย่างอื่น
- เงินได้ประเภทที่ 4 ได้แก่ ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร เงินลดทุน
- เงินได้ประเภทที่ 5 ได้แก่ เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เงินหรือประโยชน์อย่างอื่น ที่ได้เนื่องจาก
- เงินได้ประเภทที่ 6 ได้แก่ เงินได้จากวิชาชีพอิสระ คือวิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม
- เงินได้ประเภทที่ 7 ได้แก่ เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระ
- เงินได้ประเภทที่ 8 ได้แก่ เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์
2. อัตราการเสียภาษี Forex ในไทย
สำหรับอัตราการเสียภาษีจากการเทรด Forex จะเป็นการคำนวณจากกำไรที่หักขาดทุนเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีอัตราส่วนการเสียภาษีตามลำดับ ดังภาพนี้
3. วิธีการคิดคำนวณภาษี Forex สำหรับเทรดเดอร์
เมื่อเข้าใจถึงอัตราการเสียภาษีสำหรับการเทรด Forex แล้ว มาลองดูวิธีการคิดคำนวณภาษี Forex สำหรับเทรดเดอร์กันเลยดีกว่า โดยการคำนวณภาษีในส่วนนี้จำเป็นต้องมีนำกำไรที่หักจากขาดทุนมาคำนวณด้วยเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่าง
กำไรทั้งหมด: 30,000 บาท
ขาดทุนทั้งหมด: 8,000 บาท
กำไรรวม: 22,000 บาท
อัตราการเสียภาษี: 5% สำหรับผู้มีรายเดิมไม่เกิน 300,000
(สามารถดูได้จากตารางอัตราการเสียภาษี)
วิธีการคำนวณภาษี Forex จะเป็นดังนี้
22,000 (กำไรรวม) X 5% = 1,100 (ยอดภาษีที่ต้องเสีย)
*แต่เนื่องจากกำไรเงินได้สุทธิต่ำกว่า 150,000 จึงอยู่ในกลุ่มละเว้นการเสียภาษี
สำหรับข้อมูลเงินรายได้กำไร หรือขาดทุนทั้งหมด หากไม่ได้ทำการจดเอาไว้ คุณสามารถยื่นขอประวัติการเปิดออเดอร์เทรด Forex กับโบรกเกอร์ที่คุณใช้บริการได้ เพื่อมาประกอบการยื่นภาษี
4. การยื่นภาษี
สำหรับเทรดเดอร์ที่ทำการแลกเปลี่ยนซื้อขาย Forex และได้กำไร ไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ก็จำเป็นต้องทำเรื่องยื่นภาษีด้วยเช่นกัน โดยจะต้องยื่นภาษี แบบฯ ภ.ง.ด.90/91 สำหรับปีภาษีดังกล่าวภายในวันที่ 31 มี.ค. ของปีถัดไป เช่น รายการเทรดทั้งหมดที่ทำเงินกำไรได้ในปี 2567 ก็จำเป็นต้องยื่นเรื่องเสียภาษีในช่วงต้นปี 2568
ข้อควรรู้ในการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของภาษี Forex
คุณได้รู้แล้วว่าในการเทรด Forex เพื่อลงทุนและทำกำไร ย่อมจำเป็นต้องยื่นภาษีเช่นกัน แต่การยื่นภาษี Forex นับเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินด้วยความรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่นำไปสู่ปัญหากับหน่วยงานภาษีและกฎหมายในภายหลัง และต่อไปนี้คือข้อควรรู้ในการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการยื่นภาษีจากการเทรด Forex
1. จัดเก็บเอกสารและหลักฐานการเทรด Forex
สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการยื่นเสียภาษี Forex ควรที่จะต้องจัดเก็บรายการเทรดทั้งหมด, ใบแจ้งยอดกำไร / ขาดทุน และหลักฐานการชำระเงินหรือรับเงินเอาไว้ด้วย เอกสารเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการคำนวณภาษี และเป็นหลักฐานในกรณีที่หน่วยงานภาษีต้องการตรวจสอบ
2. รู้จักกำหนดเวลายื่นภาษี
อย่างที่บอกไป สำหรับการยื่นเสียภาษีการเทรด Forex จะต้องยื่นภาษีแบบฯ ภ.ง.ด.90/91 โดยมีกำหนดเวลาที่ชัดเจนคือต้องยื่นในช่วงต้นปี ของปีถัดไป เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและปัญหาที่อาจจะตามมาจากการยื่นภาษีช้า
3. ใช้ประโยชน์การหักลดหย่อน
ในการเทรด Forex ย่อมมีทั้งได้กำไรและขาดทุน จะกำไรมากหรือน้อย การรู้จักและตรวจสิทธิในการหักลดหย่อนภาษีจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเทรดเดอร์ได้เช่น เช่น ค่าใช้จ่ายในการเทรด, ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม หรือค่าธรรมเนียมการศึกษาและพัฒนาตนเองในด้านการเทรด ด้วยเรื่องยิบย่อยพวกนี้หากคุณมองว่ามันยุ่งยาก สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีก็ได้เช่นกัน
4. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง และครบถ้วน
ในการกรอกเรื่องยื่นเสียภาษี ให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดในแน่ใจว่าถูกต้องและครบถ้วน ตั้งแต่ชื่อ รายการ ตัวเลขจำนวนเงินที่ได้รับ การตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนจะช่วยลดความเสี่ยงในการต้องมานั่งแก้ไขหลังจากยื่นภาษีด้วย (เพราะปัญหาที่ตามมาจากข้อผิดพลาดมักมีความยุ่งยากและวุ่นวายพอตัวเลยทีเดียว)
การยื่นภาษีจากการเทรด Forex อาจจะดูเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับนักเทรดบางคน แต่ด้วยการเตรียมการและเข้าใจที่ดี จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงในข้อผิดพลาด รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ จากหน่วยงานภาษีที่อาจตามหลังมาได้
บทสรุป การเทรด Forex ก็ต้องเสียภาษี Forex ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าการเทรด Forex ในประเทศไทยเราเองก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นหนึ่งในช่องทางลงทุนและทำกำไรจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น แต่อย่างไรก็ดีการเทรด Forex ย่อมต้องปฏิบัติตามกฎหมายภาษีที่กำหนดไว้เช่นกัน เทรดเดอร์จำเป็นต้องยื่นและชำระภาษี Forex ที่กำไรให้ครบถ้วน เพราะรายได้จากการเทรด Forex ถือเป็นรายได้ต้องเสียภาษีได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลเช่นกัน
ดังนั้นสำหรับเทรดเดอร์ Forex ท่านใดที่กำลังลงทุนและทำกำไรจากการเทรดอยู่ ควรจัดเตรียมเอกสารและบันทึกการเทรดเพื่อใช้ในการคำนวณที่ถูกต้อง พร้อมยื่นภาษีตามกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย และปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาที่หลังได้