เทรดทองอย่างปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ได้มาตรฐานระดับโลก กับ ZFX
Home » เกี่ยวกับ ZFX
กลุ่มบริษัท Zeal รวมถึง ZFX Thailand (ภายใต้นาม Zeal Group) คือองค์กรที่ประกอบด้วยสถาบันทางการเงินที่ถูกกฎหมายภายใต้ดำเนินการภายใต้ชื่อ ZFX และกลุ่มบริษัท FinTech ในเครือที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเงิน ในการจัดการกับสภาพคล่องสำหรับสินทรัพย์หลายรูปแบบในตลาดด้วยเทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะของบริษัท และมีการขยายสาขากระจายไปยังเมืองหลักทั่วโลก ด้วยการก่อตั้งจากนักเทรดผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ได้ร่วมมือกันเพื่อรับมือกับความซับซ้อนในโลกของการเทรดทางการเงินเพื่อพร้อมมุ่งมั่นที่จะนำพาการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ Zeal มีเป้าหมายที่จะสร้างความแตกต่างด้วยการให้บริการการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภทที่เหนือระดับไปอีกขั้นทั้งสำหรับนักลงทุนรายย่อยและกับสถาบัน เพื่อไม่เป็นการรับความเสี่ยงในตลาด บริษัท ZFX มุ่งเน้นที่การค้นหาราคาที่เหมาะสมที่สุดในตลาดสถาบันด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ของการซื้อขายทุกครั้งที่ดำเนินการที่ Zeal นั้นเป็นราคาที่กำหนดโดยตลาดกลางเท่านั้น ด้วยความโปร่งใสในการกำหนดราคา ทำให้แน่ใจว่า Zeal จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับบริการนายหน้าผ่านการกำหนดราคาเพิ่มเติมเท่านั้น
เงินของลูกค้ารายย่อยจะถูกแยกออกจากบัญชีบริษัทอย่างชัดเจน ดังนั้นเงินทุนในส่วนนี้จะไม่มีการนำมาใช้เพื่อการชำระภาระหนี้ของบริษัทแต่อย่างใด
เรามีการดำเนินการภายในที่มีประสิทธิภาพและระบบบริหารทางการเงินที่เข้มงวด เป็นส่วนสำคัญที่ทำงานควบคู่กันเพื่อพัฒนามาตรฐานการบริหารกิจการบริษัทที่เยี่ยมยอดสำหรับ ZFX มีการถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญทางการเงินและอยู่ภายใต้การตรวจสอบตามกฎหมายตามมาตรฐานสูงสุด
ธุรกิจของเรามุ่งเน้นไปที่การจัดหาราคาที่ดีที่สุดในตลาดโลก โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและให้บริการการซื้อขายที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ของการซื้อขายทุกครั้งที่ดำเนินการกับเรานั้นเป็นราคาที่กำหนดโดยตลาดกลางเท่านั้น
หมายเลขใบอนุญาต FSA ของ Zeal Capital Market (Seychelles) Limited คือ SD027 Seychelles Financial Services Authority (FSA) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลในกำกับของรัฐที่รับผิดชอบภาคบริการทางสถาบันทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารในเซเชลส์ FSA ก่อตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติ Financial Services Authority ปี 2013 มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาตและควบคุมใบอนุญาต บังคับใช้ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและการปฏิบัติตามข้อกำหนดการตรวจสอบและกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจในภาคบริการทางสถาบันทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารในเซเชลส์ โดยกิจกรรมที่ได้รับการควบคุม ได้แก่ การบริการด้านความไว้วางใจในตลาดทุนและแผนการลงทุน ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจการพนันโดย FSA ยังรับผิดชอบในการจดทะเบียนบริษัทให้แก่ ธุรกิจระหว่างประเทศ มูลนิธิ ห้างหุ้นส่วนจำกัด และการบริการด้านความไว้วางใจระหว่างประเทศในเซเชลส์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลทางกฎหมายของ FSA ได้ที่เว็บไซต์ www.fsaseychelles.sc
หมายเลขใบอนุญาต FCA ของ Zeal Capital Market (UK) Limited คือ FCA (FRN) : 768451 Financial Conduct Authority (FCA) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในสหราชอาณาจักร แต่ดำเนินการโดยไม่ขึ้นกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรและได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากสมาชิกในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2012 พระราชบัญญัติการให้บริการทางการเงิน พ.ศ. 2012 ได้รับความยินยอมและมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2013 พระราชบัญญัติดังกล่าวได้สร้างกรอบการกำกับดูแลบริการทางการเงินใหม่และยกเลิกหน่วยงานบริการทางการเงินเดิมโดย FCA มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัททางการเงินที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคและรักษาความซื่อสัตย์ของตลาดการเงินในสหราชอาณาจักร เน้นการกำกับดูแลพฤติกรรมของบริษัททางการเงินทั้งสำหรับรายย่อยและรายใหญ่ในสหราชอาณาจักร เพื่อปกป้องผู้บริโภค และเพิ่มความมั่นคงของตลาด สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลทางกฎหมายของ FCA ได้ที่เว็บไซต์ www.fca.org.uk
หุ้นดัชนี คือ การรวมกันของหุ้นจำนวนมากมาไว้ด้วยกัน ซึ่งตัวเลขจะสะท้อนถึงราคาหุ้นที่ดัชนีอ้างอิง เช่น หุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เดียวกัน / หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือหุ้นที่มีมูลค่าทางตลาดใกล้เคียงกัน ยกตัวอย่างเช่น SPX500 (Standard and Poor’s 500 Index), HK50 (หุ้นดัชนีฮ่องกง 50) เป็นต้น
สินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดการเงิน คือ สินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่ หรือมีลักษณะเดียวกัน สามารถทำการเทรดซื้อขายได้ง่าย และเป็นสินค้าที่มักได้รับความนิยมใช้เป็นวัตถุดิบหลักบนการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น น้ำมันดิบ กลุ่มโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ถ่าน หรือแร่เหล็กเป็นต้น สินค้าโภคภัณฑ์จะแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท ได้แก่ สินค้าประเภทพลังงาน, สินค้าประเภทวัตถุดิบ และ สินค้าประเภทเกษตรกรรม ยกตัวอย่างเช่น : น้ำมันดิบ, ทองคำ, โลหะเงิน, ทองแดง เป็นต้น
เทรด forex คืออะไร Forex (หรือ ฟอเร็กซ์ / FX) คือ สกุลเงินต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, เงินเยนญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งสกุลเงินเหล่านี้เป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ โดยการเทรด Forex ของทางเรานั้นใช้ระบบมาร์จิ้น (Margin) ซึ่งให้ท่านสามารถเลือกซื้อหรือขายก่อนก็ได้ แบบไม่จำกัดเวลาเทรด มีการเสนอราคาตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกประเภท
CFD เป็นเครื่องมือทางการเงินประเภทหนึ่ง ที่นักลงทุนจะซื้อหรือขายสินค้าโดยไม่ได้มีการครอบครองสินค้าที่มีอยู่จริง มีการใช้ระบบมาร์จิ้น (Margin) ซึ่งจะทำให้จำนวนเงินที่ใช้ในการลงทุนนั้นน้อยกว่าการลงทุนแบบทั่วไป ตามหลักทฤษฎีแล้ว สินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาตลอดเวลา สามารถเลือกลงทุนแบบ CFD ได้ทั้งหมด นับตั้งแต่หุ้นดัชนี, Forex, หุ้นโลหะมีค่า และอื่น ๆ อีกมากมาย
ZFX ในฐานะโบรกเกอร์ผู้ให้บริการซื้อขายสัญญาส่วนต่าง CFDs ที่นำเสนอสินทรัพย์มากกว่า 100 รายการ ไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้นดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ (โลหะมีค่าหรือน้ำมันดิบ) และหุ้น ให้กับลูกค้าของเรา ท่านสามารถซื้อขายสินทรัพย์ทั้งหมดได้ทันทีในแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ของ ZFX หลังจากเปิดบัญชีและทำการฝากเงินเข้าสู่ระบบ
นักลงทุนสามารถใช้แพลตฟอร์ม ZFX Thailand ในการเทรดซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ทางบริษัทนำเสนอให้ ซึ่งทำการเทรดตามราคาตลาด หรือ Pending Order ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และคุณสามารถซื้อขายผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เช่น แอป ZFX มือถือ เป็นต้น
แพลตฟอร์ม ZFX ให้บริการการเทรดซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบมืออาชีพ ลูกค้าสามารถเทรดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น Forex, หุ้นดัชนี และ CFDs เป็นต้น ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและมีความยืดหยุ่นในการซื้อขาย ให้ท่านได้เลือกเทรดซื้อขายตามความชอบหรือถนัดของตัวเอง
ทางบริษัทเราจะเรียกเก็บมาร์จิ้นตามผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป รูปแบบการคำนวณมาร์จิ้นจะแยกเป็น มาร์จิ้นแบบลอยตัว และมาร์จิ้นแบบคงที่ ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับมาร์จิ้นของแต่ละผลิตภัณฑ์ คุณสามารถอ่านและอ้างอิงได้ที่ More Contract Specifications ในเว็บไซต์ทางการได้
คุณสามารถตรวจสอบเวลาในการเทรดซื้อขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้บนแพลตฟอร์มการซื้อขาย ZFX โดยทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบบนแพลตฟอร์ม > Market Watch ด้านซ้าย > คลิกขวาที่ผลิตภัณฑ์ > เลือก Specification เท่านี้คุณก็สามารถตรวจสอบเวลาการซื้อขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้
คุณสามารถทำการตรวจสอบประวัติการซื้อขายได้ ผ่านการล็อกอินเข้าสู่แพลตฟอร์ม ZFX โดยการกดปุ่ม Ctrl + T ค้างไว้ เพื่อเปิดหน้าต่างเทอร์มินัล (Terminal) แล้วเลือกประวัติบัญชี (Account History) แล้วกดคลิกขวาที่ประวัติบัญชีทั้งหมด (All History) เพื่อดูประวัติการทำธุรกรรมทั้งหมด
แพลตฟอร์ม ZFX ของเรารองรับและสามารถใช้งาน EA Expert Advisor ได้
หากเกิดเหตุการณ์ไม่เจอผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์ม โปรดทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ > หน้าต่าง Market Watch ด้านซ้าย > คลิกขวาที่แสดงทั้งหมด (Show All) เพื่อดูผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำการเทรดทั้งหมด
Hedge คือระบบป้องกันความเสี่ยง ที่จะทำงานต่อเมื่อนักลงทุนเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) และขาย (Sell) ผลิตภัณฑ์เดียวกัน และล็อตเดียวกันพร้อมกัน
* คำเตือน : Hedge หรือ Hedging ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการถูกล้างพอร์ต 100% ยอดเงินในบัญชีอาจจะถูกล้างพอร์ตเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงค่าสเปรดระหว่างราคาซื้อกับราคาขาย และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ดังนั้นเมื่อมีการ Hedging คุณควรใส่ใจกับยอดเงินที่เหลือในบัญชี และมาร์จิ้นขั้นต่ำที่จำเป็นเพื่อรักษาคำสั่งที่เปิดไว้ในตลาด
สำหรับบัญชี Mini กับ บัญชี STP การทำ Hedging คู่สกุลเงินและทองคำจะคิดค่ามาร์จิ้น 0% ส่วนการทำ Hedging กับสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นดัชนี สกุลเงินดิจิตอลและหุ้น CFD จะมีการคิดค่ามาร์จิ้น 10% และในส่วนของการเปิดบัญชี ECN การทำ Hedging ของสินค้าทุกประเภทจะคิดค่ามาร์จิ้น 50%
หากยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอแล้วไม่สามารถทำการฝากเงินได้ทันที ทำให้อัตราส่วนมาร์จิ้นของบัญชีน้อยกว่าอัตราส่วนมาร์จิ้นที่แต่ละบัญชีกำหนดเอาไว้ ทางระบบจะทำการล้างพอร์ตโดยการปิดออเดอร์ที่ขาดทุนมากที่สุดให้ทันที และสำหรับอัตราส่วนมาร์จิ้นขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับแต่ละบัญชี คือ บัญชี Mini : 20% / บัญชี STP : 30% และบัญชี ECN : 50%
* คำเตือน : Hedge หรือ Hedging ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการถูกล้างพอร์ต 100% ยอดเงินในบัญชีอาจจะถูกล้างพอร์ตเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงค่าสเปรดระหว่างราคาซื้อกับราคาขาย และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ดังนั้นเมื่อมีการ Hedging คุณควรใส่ใจกับยอดเงินที่เหลือในบัญชี และมาร์จิ้นขั้นต่ำที่จำเป็นเพื่อรักษาคำสั่งที่เปิดไว้ในตลาด
Stop Loss และ Take Profit คือ การตั้งราคาปิดออเดอร์ที่กำหนดเอาไว้แบบล่วงหน้าก่อน เมื่อราคาตลาดถึงราคาปิดออเดอร์ที่กำหนดเอาไว้ ระบบจะทำการปิดออเดอร์ให้โดยอัตโนมัติ โดยการตั้งค่า Stop Loss มีไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่มากเกินไป และการตั้งราคา Take Profit เพื่อป้องกันการได้กำไรที่ควรจะได้รับ แน่นอนว่าทั้งสองอย่างมีความเป็นไปได้ที่จะลดการสูญเสียขาดทุนและได้ผลกำไรที่คาดหวัง
ซึ่งทั้งสองการตั้งค่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้ในการบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุนของลูกค้า และสามารถใช้งานได้เมื่อกดคลิกขวาที่คำสั่งซื้อใน “Terminal-Trade” เพื่อกำหนดราคา Stop Loss และราคา Take Profit แล้วทำการคลิก “Modify of Delete Order” และตั้งค่าราคา Stop Loss หรือ Take Profit ที่คุณต้องการในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น
Pending Order บนแพลตฟอร์ม ZFX ไม่มีวันหมดอายุ จนกว่าคุณจะกดยกเลิก
สำหรับการตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สามารถดูได้บนแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT4 หลังจากล็อกอินเข้าสู่แพลตฟอร์มแล้ว คลิกขวาที่ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในหน้าต่าง Market Watch ด้านซ้าย แล้วเลือก Specfication เพื่อดู “Swap Long” และ “Swap Short” ซึ่งเป็นค่า “Swap long (ออเดอร์ซื้อ)” และค่า “Swap short (ออเดอร์ขาย)”
โดยอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนจะพิจารณาตามอัตราดอกเบี้ยบนแพลตฟอร์ม หากอัตราดอกเบี้ยติดลบ ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินดอกเบี้ยข้ามคืนให้แก่ทางบริษัท แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยเป็นค่าบวก ทางบริษัทจะต้องจ่ายดอกเบี้ยข้ามคืนให้แก่ลูกค้า
ทองคำ โลหะเงิน น้ำมันดิบสหรัฐ น้ำมันดิบอังกฤษและหุ้นดัชนีบางส่วน มีสูตรการคำนวณดอกเบี้ยข้ามคืน = จำนวนล็อต x ค่าธรรมเนียมข้ามคืนตามมาตรฐาน x จำนวนวัน
ตัวอย่างเช่น : คุณกำลังเปิดออเดอร์ซื้อทองคำ 2 ล็อตข้ามคืน ดอกเบี้ยข้ามคืน = -5.46 USD x 2 ล็อต x 1 วัน = -10.92 USD ผลที่ได้คือค่าลบ ซึ่งหมายถึงลูกค้าต้องจ่าย 10.92 USD ให้แก่บริษัท ส่วนถ้าอัตราส่วนดอกเบี้ยเป็นค่าบวก ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยจากทางบริษัท
ภายในหนึ่งสัปดาห์จะคำนวณดอกเบี้ย 7 วันตามวิธีปฏิบัติของธนาคารระหว่างประเทศ เมื่อทำการส่งคำสั่งเทรดซื้อขายในตลาด Forex โดยวันที่มีการส่งมอบจะเป็นอีกสองวันถัดไป (T+2) คิดดอกเบี้ย 1 วัน ในช่วงเวลาวันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี และวันศุกร์ ส่วนจะมีการคิดดอกเบี้ย 3 วันในวันพุธ
ตามแบบแนวทางในการปฏิบัติของธนาคารระหว่างประเทศ เมื่อทำการส่งคำสั่งเทรดซื้อขายในตลาด Forex วันที่มีการส่งมอบจะเป็นอีกสองวันถัดไป ตัวอย่างเช่น มีการตกลงซื้อขายกันในวันจันทร์ วันที่มีการส่งมอบจะเป็นวันพุธ และมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
วันจันทร์ : ดอกเบี้ยข้ามคืน 1 วัน หมายถึง การเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอังคาร วันที่คิดบัญชีคือวันพุธถึงวันพฤหัส เพราะฉะนั้นทางระบบจะจ่าย / เก็บดอกเบี้ยเป็นจำนวน 1 วัน
วันอังคาร : ดอกเบี้ยข้ามคืน 1 วัน หมายถึง การเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ตั้งแต่วันอังคารจนถึงวันพุธ วันที่คิดบัญชีคือวันพฤหัสถึงวันศุกร์ เพราะฉะนั้นทางระบบจะจ่าย / เก็บดอกเบี้ยเป็นจำนวน 1 วัน
วันพุธ : ดอกเบี้ยข้ามคืน 1 วัน หมายถึง การเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ตั้งแต่วันพุธจนถึงวันพฤหัสบดี วันที่คิดบัญชีคือวันศุกร์ถึงวันจันทร์ เพราะฉะนั้นทางระบบจะจ่าย / เก็บดอกเบี้ยเป็นจำนวน 3 วัน
วันพฤหัส : ดอกเบี้ยข้ามคืน 1 วัน หมายถึง การเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนถึงวันศุกร์ วันที่คิดบัญชีคือวันจันทร์ถึงวันอังคาร เพราะฉะนั้นทางระบบจะจ่าย / เก็บดอกเบี้ยเป็นจำนวน 3 วัน
วันศุกร์ : ดอกเบี้ยข้ามคืน 1 วัน หมายถึง การเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ตั้งแต่วันศุกร์จนถึงวันจันทร์ วันที่คิดบัญชีคือวันอังคารถึงวันพุธ เพราะฉะนั้นทางระบบจะจ่าย / เก็บดอกเบี้ยเป็นจำนวน 1 วัน
มีคิดดอกเบี้ย ทางบริษัท ZFX จะคำนวณดอกเบี้ยข้ามคืน แม้ว่าคำสั่งซื้อขายของคุณจะถูกดำเนินการ Hedging อยู่แล้วก็ตาม
ดอกเบี้ยข้ามคืนจะถูกชำระในช่วงเวลา 04.00 น. (ฤดูร้อน GMT+1 22:00) ต่อวัน หรือในช่วงเวลา 5:00 น. (ฤดูหนาว GMT+1 23:00) ต่อวัน และจะปรากฏในช่อง “Swap” ในแพลตฟอร์มซื้อขาย MT4 ส่งผลกระทบต่อปริมาณ “Equity” ของบัญชีพร้อมกัน และหลังจาก ออเดอร์ถูกปิด ค่าดอกเบี้ยข้ามคืน (Swap) จะถูกเพิ่มหรือหักออกจาก “Balance” ในบัญชี
เมื่อคุณซื้อขายหุ้นดัชนีผ่านสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) คุณจำเป็นต้องรู้ว่าผู้ถือหุ้นเป็นส่วนประกอบในหุ้นดัชนีดังกล่าว จะมีการจ่ายเงินปันผล มูลค่าของสถานะที่สอดคล้องกันถืออยู่ในบัญชีซื้อขายของลูกค้า และจะได้รับผลกระทบหลังจากตลาดปิด (แพลตฟอร์มการซื้อขาย / เวลาเซิร์ฟเวอร์) สำหรับคำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่ในบัญชีเทรดของลูกค้าหลังจากหักภาษีที่เกี่ยวข้อง จะมีการเก็บหรือจ่าย (หมายเหตุ : หุ้นดัชนี CFD แบบฟิวเจอร์สไม่อยู่ในหลักเกณฑ์สำหรับเงินปันผลนี้)
การคำนวณรายได้จากเงินปันผลสำหรับออเดอร์ซื้อของหุ้นดัชนีมีดังนี้ :
รายได้จากเงินปันผล = เงินปันผลจากหุ้นที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี (ตามทุกสัญญา) x จำนวนล็อต x ขนาดสัญญา
การคำนวณการจ่ายเงินปันผลสำหรับออเดอร์ขายของหุ้นดัชนีมีการคำนวณดังนี้ :
การจ่ายเงินปันผล = เงินปันผลจากหุ้นที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี (ตามทุกสัญญา) x จำนวนล็อต x ขนาดสัญญา
สมมติว่าลูกค้าบัญชี STP มีการเปิดออเดอร์ซื้อ HK50 0.01 ล็อตในวันที่ 9/24 และเปิดออเดอร์ค้างไว้ผ่านตลาดปิดสำหรับ HK50 ในวันนั้น เนื่องจากวันที่มอบให้เงินปันผลคือ 9/25 จึงจำเป็นต้องอ้างอิงข้อมูลของวันที่ 9/25 จากประกาศของเว็บไซต์ทางการ สมมติว่าข้อมูลเงินปันผลจากหุ้นที่เป็นส่วนประกอบในหุ้นดัชนีในวันนั้นคือ 1.214 วิธีการคำนวณมีดังนี้ : 1.214 (เงินปันผลจากหุ้นที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี) x 0.01 (จำนวนล็อต) x 50 (ขนาดสัญญา) = 0.607 ดอลลาร์ฮ่องกง และสมมติว่าอัตราแลกเปลี่ยนคือ 7.8381 ซึ่งจะกลายเป็น 0.077 ดอลลาร์สหรัฐ ปัดเศษเป็น 0.08 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากลูกค้าเปิดออเดอร์ซื้อ ดังนั้นลูกค้าจะได้รับเงินปันผลจำนวน 0.08 ดอลลาร์สหรัฐ
คุณสามารถเข้าสู่ระบบศูนย์บริการลูกค้า MyZFX บนเว็บไซต์ ZFX จากนั้นให้คลิกไปที่ “การฝากเงิน” และทำตามคำแนะนำหน้าเว็บ และเพื่อที่ลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด ทางบริษัทของเราขอแนะนำให้ลูกค้าใช้เว็บเบราว์เซอร์ (Browser) Google และ Firefox เพื่อทำธุรกรรม
คุณสามารถเข้าสู่ระบบศูนย์บริการลูกค้า MyZFX จากนั้นให้คลิกที่ บัญชีเทรด > รายการบัญชี แล้วเลือกบัญชีเทรด MT4 ที่คุณต้องการตั้งรหัสผ่านใหม่ โดยคลิกที่ไอคอนรูปสามจุดทางด้านขวา จากนั้นคลิก “ตั้งค่ารหัสผ่านใหม่” ซึ่งรหัสผ่านต้องประกอบด้วยทั้งตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์เล็กและตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ ด้วยความยาว 8-16 ตัวอักษร
คำเตือน : รหัสผ่านศูนย์บริการลูกค้า MyZFX จะแตกต่างจากรหัสผ่านบัญชี MT4 หากไม่สามารถเข้าสู่ระบบ MT4 ได้ ให้คุณทำการตรวจสอบว่ารหัสที่ใช้เข้าสู่ระบบ MT4 อาจเป็นรหัสผ่านเดียวกันกับรหัสศูนย์บริการลูกค้า MyZFX หรือไม่
ZFX มีตัวเลือก Leverage ที่ยืดหยุ่นให้กับผู้ใช้งาน โดยหลังจากลงทะเบียนบัญชีสำเร็จ คุณสามารถเลือกปรับ Leverage ได้ทันทีเมื่อเข้าสู่ระบบผู้ใช้ MyZFX
คำเตือน : โปรดระวังการปรับหลักเกณฑ์ของ Leverage เสมอ (ใช้ได้เฉพาะกับการซื้อขายฟอเร็กซ์ (Forex) และทองคำของบัญชี Mini เท่านั้น) โดยศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.zfx.com/th/product-overview/applicable-leverage
จำนวนล็อตขั้นต่ำต่อการเปิดในหนึ่งออเดอร์สำหรับบัญชี Cent คือ 0.01 ล็อต ส่วนบัญชี STP คือ 0.01 ล็อต และบัญชี ECN คือ 0.01 ล็อต
สกุลเงินที่ใช้ในการทำธุรกรรมบัญชีจะคิดเป็นหน่วย USD โดยการแลกเปลี่ยนเงินฝากทั้งหมดจะเปลี่ยนไปตามอัตราการแลกเปลี่ยนเงินในตลาด มั่นใจได้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะมีความโปร่งใสและยุติธรรมกับผู้ใช้งาน ซึ่งทางบริษัทเราจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ เพิ่มเติม
เงินทุนของลูกค้า ZFX จะแยกออกจากเงินทุนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างสมบูรณ์และฝากไว้ในบัญชีธนาคารที่แยกจากบัญชีธนาคารของบริษัทโดยตรง ซึ่งการโอนเงินจะต้องได้รับการอนุมัติจากลูกค้าเท่านั้น ไม่มีใครหรือองค์กรใด ๆ สามารถถอนเงินออกจากบัญชีซื้อขายของลูกค้าได้ และทางบริษัทของเราก็มีนโยบายรับประกันความปลอดภัยสำหรับเงินทุนให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน
เมื่อเปิดบัญชีกับเรา คุณต้องทำการกรอก ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ, ที่อยู่, อีเมล, เพศ, วันเดือนปีของวันเกิดของผู้เปิดบัญชี คุณสามารถดำเนินการเปิดบัญชีสำเร็จได้ภายใน 3 นาที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยกระบวนการที่ง่ายและสะดวก
คำเตือน : คุณจำเป็นต้องกรอกข้อมูลประจำตัวและข้อมูลของธนาคารก่อนที่จะถอนเงิน โดยสามารถยื่นข้อมูลเพื่อให้เราตรวจสอบได้โดยการไปที่ระบบศูนย์บริการลูกค้า MyZFX > ข้อมูลส่วนบุคคล > การตรวจสอบเอกสาร กับ ยืนยันการชำระเงิน เพื่อให้เราทำการพิจารณาข้อมูล
แม้ว่าบัญชีจริงและบัญชีทดลอง (Demo) จะใช้ซอฟต์แวร์ตัวเดียวกัน แต่บัญชีทดลองส่วนใหญ่จะใช้เพื่อจุดประสงค์ในการสั่งสมประสบการณ์เกี่ยวกับการเทรดเท่านั้น และไม่สามารถรับผลลัพธ์ใด ๆ ในการทำธุรกรรม (เงินกำไร) ได้เช่นเดียวกับบัญชีจริง
บริการของเรามีบัญชี Demo ให้คุณได้ใช้งาน ซึ่งสามารถช่วยให้นักลงทุนคุ้นเคยกับการใช้งานบนแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์และเรียนรู้การเทรดหรือการลงทุนกับฟอเร็กซ์ (Forex) โดยมีสองวิธีในการเปิดบัญชีทดลองดังต่อไปนี้
1. ขั้นแรก เปิดบัญชีที่ใช้เทรดจริงบนเว็บไซต์หลักของเรา จากนั้นก็ทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อย หลังจากนั้นคุณก็สามารถเปิดบัญชีทดลองในบัญชีศูนย์ผู้ใช้ MyZFX ได้
2. คลิกที่เว็บไซต์ Official เพื่อเปิดบัญชีทดลองที่ https://my.zfx.com/reg กรอกข้อมูลการลงทะเบียนที่จำเป็นและเลือกประเภทบัญชี หลังจากลงทะเบียนสำเร็จแล้ว เราจะส่งหมายเลขบัญชีทดลองและรหัสผ่านไปยังอีเมลที่ลงทะเบียนของคุณ
ได้ครับ เพราะ ZFX รองรับการเปิดบัญชีเทรดหลายบัญชี หลังจากลงทะเบียนการเปิดบัญชีเสร็จแล้ว คุณสามารถสมัครบัญชีซื้อเทรดใหม่ในบัญชีสำหรับศูนย์ผู้ใช้ MyZFX และเลือกประเภทบัญชีตามความต้องการของคุณ
คำเตือน : เอกสารประจำตัวสำหรับ 1 ท่านสามารถนำไปใช้ในการเปิดบัญชีเทรดได้แค่ 10 บัญชีเท่านั้น ส่วนการเปิดบัญชีที่สำเร็จแล้ว คุณจะไม่สามารถยกเลิกบัญชีได้ครับ
ทางบริษัทเราจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ สำหรับการเปิดบัญชี ซึ่งมีนโยบายการเงินฝากขั้นต่ำครั้งแรกสำหรับบัญชี ECN คือ $1,000 สำหรับบัญชี STP คือ $200 และสำหรับบัญชี Cent คือ $15 โดยสำหรับเงินฝากขั้นต่ำครั้งต่อ ๆ ไปของบัญชีทั้งหมดคือ $4
การฝากเงินแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 4 USD (ประมาณ 140 บาท)
บริษัทของเราเปิดให้คุณสามารถฝากเงินด้วยบัตรเครดิตได้
การดำเนินการฝากหรือถอนเงินทั้งแบบทั่วไปหรือแบบออนไลน์ ทางบริษัทเราจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น
คำเตือน : หากคุณใช้วิธีโอนเงินข้ามพรมแดนผ่านทางธนาคารโดยตรงเพื่อการฝากหรือถอนเงิน ธนาคารอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องได้
หลังจากเปิดบัญชีผ่านทางออนไลน์แล้ว คุณต้องยื่นเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนและการผูกบัญชีธนาคารก่อนที่จะถอนเงิน ส่วนเอกสารประจำตัวที่จำเป็นมีดังนี้:
1) บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่และหนังสือเดินทาง
ตัวอย่างเช่น: ด้านหน้าของบัตรประจำตัวประชาชน ด้านหน้าและด้านหลังของใบขับขี่และหน้าที่มีรูปถ่ายของหนังสือเดินทาง (สามารถใช้การสแกนหรือใช้ถ่ายภาพที่ชัดเจนและไม่สะท้อนแสง)
2) บัญชีธนาคาร
ตัวอย่างเช่น: หน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร (หมายเลขบัญชีธนาคารนั้นจะต้องเป็นเจ้าของบัญชีเองและหมายเลขบัญชีธนาคารต้องตรงกับการลงทะเบียนบัญชี)
คำเตือน: ภาพที่อัปโหลดเพื่อทำการตรวจสอบต้องปรากฏครบทุกส่วนของภาพ โดยคุณสามารถทำการยืนยันข้อมูลการถอนเงินได้โดยการเข้าสู่ศูนย์บริการลูกค้า MyZFX > ข้อมูลส่วนบุคคล > การตรวจสอบเอกสารและยืนยันการชำระเงิน กรอกข้อมูลประจำตัวและข้อมูลธนาคารของคุณและอัปโหลดเอกสารเพื่อใช้ในการตรวจสอบ
เจ้าของบัญชีธนาคารกับผู้ลงทะเบียนผูกบัญชีต้องเป็นคนเดียวกัน เนื่องจากป้องกันความปลอดภัยของเงินทุนสำหรับลูกค้า ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินระหว่างประเทศ
คุณสามารถเข้าสู่ระบบของศูนย์บริการลูกค้า MyZFX และคลิกไปที่ ‘การถอนเงิน’ จากนั้นทำตามคำแนะนำในหน้าเว็บไซต์เพื่อยื่นคำขอถอนเงินและยืนยันการถอนเงินได้ทันที
คำเตือน : วิธีการคำนวณเงินที่สามารถถอนได้จากยอดคงเหลือคือ: เงินสดที่สามารถถอนได้ = Equity – Credit – 2 X Used margin (มาร์จิ้นที่ใช้ไปแล้ว)
และเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการถอนเงินของลูกค้า ให้คุณทำการยืนยันว่าคุณได้ยื่นเอกสารยืนยันตัวตนแล้ว (บัตรประจำตัวประชาชนและสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก) นอกจากนี้ การถอนเงินครั้งแรก ฝ่ายบริการลูกค้าจะโทรหาลูกค้าเพื่อยืนยันการพิสูจน์ตัวตน
จำนวนเงินขั้นต่ำที่ถอนได้คือ 100 บาท ซึ่งจะถูกแปลงเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.85 USD) ตามอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์
ในกรณีทั่วไป เงินฝากจะเข้าบัญชีภายใน 20 นาที แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วในการทำงานของธนาคารและบริษัทที่ให้บริการการโอนเงินด้วยเช่นกันว่าดำเนินการได้เร็วแค่ไหน
หลังจากที่คุณยื่นคำขอในการถอนเงินแล้ว เราจะทำการตรวจสอบและโอนเงินเข้าบัญชีภายใน 24 ชั่วโมงของวันทำการปกติ
คำเตือน : หากเป็นวันหยุดจะทำการเลื่อนให้เป็นวันทำการถัดไป ส่วนเวลารับเงินจะขึ้นอยู่กับธนาคารปลายทางที่คุณได้ทำการถอนเพื่อรับเงิน
หากบัญชีของคุณได้ทำการยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว คุณสามารถยื่นคำขอถอนเงินได้ตลอดเวลา ซึ่งเราจะทำการตรวจสอบคำขอถอนเงินให้แล้วเสร็จในวันทำการปกติ หลังจากตรวจสอบสำเร็จแล้ว จะมีการโอนเข้าบัญชีธนาคารปลายทางของคุณภายใน 24 ชั่วโมง
Zeal Capital Market (Seychelles) Limited. หรือชื่อทางการค้า ZFX หมายเลขใบอนุญาต คือ SD027 Seychelles Financial Services Authority (FSA)เราเป็นระบบเทรดทองที่ถือได้ว่าดีที่สุดในตลาดโลก โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและให้บริการการซื้อขายที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย การซื้อขายทุกครั้งที่ดำเนินการที่ Zeal นั้นเป็นราคาที่กำหนดโดยตลาดกลางเท่านั้น ความโปร่งใสในการกำหนดราคาทำให้มั่นใจได้ว่า Zeal ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนนายหน้าหลักในการให้บริการ
© 2023 สงวนลิขสิทธิ์ Zeal Capital Market (Seychelles) Limited